โตเกียว
เทรนด์ดี 32
จากสี่แยกฮาราจูกุ เดินตามถนนโอโมเทะซันโดขึ้นไปเล็กน้อย
จะเจอป้อมตำรวจอยู่ก่อนถึงโอโมเทะซันโดฮิลล์ เดินเข้าซอยข้างป้อมตำรวจไปไม่ไกลก็จะเห็นร้าน
marimekko Concept Store
แบรนด์ดังดีไซน์เด่นสัญชาติฟินแลนด์
ตั้งอยู่ในส่วนที่เงียบสงบท่ามกลางความพลุกพล่านของถนนโอโมเทะซันโด รอให้แฟนตัวจริงมาเยี่ยมเยียน โดยไม่ต้องไปแก่งแย่งกับใครๆ
ใครที่เป็นแฟนของ marimekko คงรู้จักชื่อเสียงของเค้าดี
โดยเฉพาะคอลเลคชั่นคลาสสิคของผ้าพิมพ์ลายทาง ขาวสลับแดง และขาวสลับน้ำเงิน
และลายอื่นๆที่ออกแบบได้ถูกใจคุณสุภาพสตรีซะเหลือเกิน
แต่สำหรับท่านที่ไม่ใช่แฟนตัวแม่ ผมคงต้องขอแนะนำให้ลองแวะเข้าไปดูให้ได้ ยิ่งช่วงนี้ใกล้คริสต์มาสและปีใหม่
ใครที่กำลังมองหาของขวัญให้เพื่อนหรือให้ผู้ใหญ่ ไปที่ร้าน marimekkoไม่เป็นที่ผิดหวังแน่นอนครับ
ที่นี่เค้าเน้นสินค้าที่ผลิตจากผ้าพิมพ์ลายซึ่งเป็นจุดเด่นของเค้า
ลวดลายต่างๆที่เค้าออกแบบมาในแต่ละปีล้วนแล้วแต่ได้รับการยกย่องและเป็นที่นิยม
ด้วยการออกแบบและควบคุมการผลิตที่จะผลิตในประเทศฟินแลนด์เท่านั้น
จึงทำให้สินค้าของ marimekko เป็นสินค้าที่ดูดีมีชาติตระกูล
ยิ่งได้คุณแจคเกอรีน เคเนดี้มาสอยไปทีเดียว8ชุด ก็เลยยิ่งดังข้ามทวีปกันเลยทีเดียว
marimekko ก่อตั้งโดยสองสามีภรรยา
Armi และ Viljo Ratia ในปี1949 โดยเริ่มดำเนินธุรกิจจากผ้าผืน
ที่เสนอการผสมผสานของการออกแบบและการพิมพ์ลายบนผืนผ้าที่มีคุณภาพในนามบริษัทPrintex แต่ด้วยคนสมัยโน้นยังไม่รู้ว่าจะเอาผ้าสวยคุณภาพดีไปทำอะไร
เพราะเพิ่งผ่านสงครามโลกครั้งที่2มาหมาดๆ เศรษฐกิจยุโรปก็ยังย่ำแย่อยู่ สองสามีภรรยาจึงต้องลองเอาผ้าของตัวเองไปตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นโดยการออกแบบของดีไซน์เนอร์ชื่อดังของยุคนั้น
คุณ Ritta Immonen และใช้แบรนด์marimekkoโปรโมท ด้วยการจัดเดินแฟชั่นโชว์ในภัตตาคารหรูจนเป็นที่ฮือฮา
และก้าวเข้าสู่ ความเป็นที่นิยมจนต้องขยายไลน์สินค้าออกไป แต่ด้วยความเป็นศิลปินมากกว่าเป็นนักการตลาด
marimekkoก็ประสบกับปัญหาด้านการเงินจนต้องโดนซื้อกิจการไปในปี1991
แต่ก็เพราะความเป็นบริษัทที่ขายดีไซน์บรรเจิดมาโดยตลอดประกอบกับได้ผู้บริหารมือดีจากบริษัทWorkidea
คุณKirsti Paakkanen เข้ามาปรับปรุงและนำแผนธุรกิจสมัยใหม่มาใช้
เลยสามารถปรับตัวและยังคงความเป็นผู้เล่นแถวหน้าที่นำกระแสดีไซน์ใหม่ๆส่งมอบให้กับวงการอยู่เสมอ
จนสามารถนำพาธุรกิจเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของฟินแลนด์ไนปี1999
และขยับขยายกิจการออกไปถึง40ประเทศทั่วโลก
สินค้าของmarimekko
จะจำกัดอยู่เพียง3กลุ่มธุรกิจเท่านั้นคือ
กลุ่มเสื้อผ้า(Clothing) กลุ่มสินค้าตกแต่งภายใน(Interior Decoration) และกระเป๋า(Bags) โดยสินค้าทั้ง3กลุ่มใช้วัตถุดิบเหมือนกันก็คือผ้าพิมพ์ลาย
เพราะผ้าพิมพ์ลายถือเป็นหัวใจของ marimekkoมาโดยตลอด
กว่า60ปีที่เปิดดำเนินธุรกิจมาmarimekko รับดีไซน์เนอร์มือดีมาเสริมทีมออกแบบอยู่ตลอดเวลา
พิถีพิถันกับการเลือกใช้ผ้าที่ผลิตจากธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นผ้าฝ้าย ผ้าลินินหรือผ้าขนสัตว์
และไม่เคยหยุดพัฒนาเทคนิคการพิมพ์ลายบนผืนผ้าให้คมชัด มีสีสันสดใสคงทน
เป็นมิตรกับผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม จนสามารถยืนอยู่บนแถวหน้าของธุรกิจออกแบบลายผ้าและจำหน่ายสินค้าที่ผลิตจากผ้าพิมพ์ลายแบรนด์หนึ่งของโลกเลยทีเดียว
สินค้ากลุ่มเสื้อผ้าจะเน้นที่เสื้อผ้าของคุณสุภาพสตรีมากหน่อย แต่ของคุณผู้ชายและเด็กก็มี
รวมทั้งเสื้อยือลายขวาง สีขาวแดงและขาวน้ำเงินซึ่งเป็นลายคลาสสิคของแบรนด์นี้ (เหมือนกับPaul
Smith ถ้าเป็นลายคลาสสิคก็ต้องลายMulti Strips) แต่ถ้าเป็นกระเป๋าก็จะมีให้เลือกตั้งแต่กระเป๋าสะพาย
กระเป๋าถือ กระเป๋าใส่เครื่องสำอาง ไปจนถึงซองใส่โทรศัพท์มือถือ
แต่กลุ่มสินค้าที่ผมคิดว่าน่าซื้อเป็นของฝากเพื่อนหรือผู้ใหญ่มากที่สุดก็คือสินค้าตกแต่งภายใน
สินค้าตกแต่งภายใน จะเน้นไปที่เครื่องใช้ไม้สอยที่เป็นผ้าสำหรับส่วนต่างๆในบ้านโดยเน้นหนักไปที่ห้องนอน
ห้องน้ำ ห้องครัว และ ห้องเด็ก เช่นผ้าปูโต๊ะ ผ้ารองจาน ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน
ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดมือ เป็นต้น
อะไรที่พอจะนึกออกว่าควรมีในห้องเหล่านี้แล้วทำจากผ้า marimekkoเค้าเตรียมไว้ให้ท่านหมด
และโดยเฉพาะเครื่องนอนของเค้ายังได้ใบรับรองว่าปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตรายอีกด้วย
นอกจากผ้าแล้ว ผลิตภัณฑ์อื่นๆที่นำลายไปเป็นองค์ประกอบก็มีด้วยไม่ว่าจะเป็น จาน
ชาม ถ้วย ฯลฯ หรือของกระจุกกระจิก
จำพวกแผ่นรองเม้าส์ สมุด กระดาษเขียนจดหมาย พวงกุญแจ
ก็เหมาะที่จะซื้อเป็นของฝากเหมือนกัน
ถ้ากำลังคุณมองหา
ของดีมีดีไซน์เด่นวัสดุเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
แวบเข้าร้านนี้มีของติดมือออกมาแน่นอนครับ
ยังมีเมล์มาถามเรื่องอยากติดตามอ่านคอลัมน์ที่เคยลงไปแล้วทั้ง2ซี่รี่ย์คือ
“เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น” ที่เน้นเรื่องประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นอย่างย่อ และ”ถ้าไปก็จะได้เห็น” ซึ่งแนะนำสถานที่เที่ยวยอดนิยม
สามารถตามอ่านได้แล้วครับที่ http://www.j-plan.co.th/webboard/