โตเกียว เทรนด์ดี 16
จากย่านชิบุยะถ้าจะไปฮาราจูกุ (Harajuku) ก็สามารถไปได้หลายวิธี ถ้าเอาแบบเบสิคที่นักท่องเที่ยวทั่วไปใช้กันก็คงไม่พ้นการไปโดยรถไฟฟ้าบนดินสาย JR Yamanote สีเขียวอ่อน ขึ้นไปในทิศทาง Shinjuku-Ikebukuro-Ueno นะครับ เพราะถ้าขึ้นผิดชานชลา ก็อาจพาคุณลงไปทางตรงกันข้ามคือ Meguro-Shinagawa-Tokyoได้ ถ้าจำไม่ผิด จะไปฮาราจูกุก็ควรจะขึ้นชานชลาที่2 ดูทิศทางให้แน่ใจก่อนละกัน ถ้ามั่นใจแล้วก็ยืนไปแค่ป้ายเดียว ลงที่สถานีฮาราจูกุได้เลยครับ แต่ใครที่ซื้อตั๋วรถไฟฟ้าต็ดินแบบวันดียวราคาเดียว ก็จะมุดดินไปใช้รถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำตาล Fukutoshin Line นั่งไปแค่ป้ายเดียวเช่นกัน แต่ลงที่สถานี Meiji- jingumae นะครับ จำไว้เลยว่าถ้าเป็นรถไฟฟ้าใต้ดินจะขบวนไหนก็ตามต้องลงที่สถานี Meiji-jingumae เท่านั้น ไม่ใช่สถานีฮาราจูกุ สำหรับรถไฟฟ้าใต้ดินนี้ยังมีวิธีจดจำแบบง่ายๆได้อีกคือ ทุกสายเค้าจะถูกแทนด้วยสีและอักษรย่อเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ และทุกสถานีจะถูกแทนที่ด้วยตัวเลข เช่นที่สถานีชิบุยะนี้ถ้าเป็นสาย Fukutoshin ก็เป็นสีน้ำตาล F16 และสถานีMeiji-jingumae เป็นสถานี F15 เวลาลงไปที่ชานชลาก็สังเกตุทิศทางจากลำดับของตัวเลขก็สะดวกดีครับ
แต่สำหรับผม วิธีที่ผมชอบที่สุดก็คือ เดินครับ หลายคนคงต้องโห่ฮิ้วแน่ๆ แต่มันเป็นเรื่องดีที่ต้องบอกความจริงกัน เพราะตลอดเส้นทางมีร้านรวงสารพัดแบรนด์ให้เพลิดเพลินจำเริญตา แถมมีโอกาสได้สินค้าเด่นของดีติดไม้ติดมือไปก็เป็นได้ หรือถ้าขี้เกียจเดินจะนั่งรถเมล์ไปก็ได้ แต่อย่างไรเสีย พอเห็นร้านรวงระหว่างทางแล้ว ก็ต้องเดินย้อนกลับมาอยู่ดี
จากห้าแยกชิบุยะ ตรงหน้าสถานีรถไฟJR ถ้ายืนหันหน้าไปทางตึก Q FRONT ให้คุณแลขวา ก็จะเห็นทางรถไฟยกระดับ คุณเดินไปทางนั้นล่ะครับ พอลอดใต้ทางรถไฟไปแล้วก็จะเจอกับสี่แยกไฟแดง จุดตัดของถนนเมจิ (Meiji Dori) กับ ถนนเนินมิยะมาสึ (Miyamasu Zaka) สังเกตุตรงสี่แยกจะมีร้านเครื่องไฟฟ้าขนาดใหญ่ ชื่อ Bic Camera ตั้งอยู่ตรงหัวมุมพอดี พูดถึงร้านนี้นักท่องเที่ยวชาวไทยคงรู้จักกันดี หลายท่านคงเสียเงินกับร้านนี้ไปไม่น้อย เพราะเค้ามีเครื่องไฟฟ้า กล้อง คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเลคโทรนิคสารพัดให้เลือกมากจริงๆ ใครชอบเดินร้านจำพวกนี้ จะเดินโฉบเฉี่ยวเข้าไปดูก็ได้ แต่ถ้าคิดจะซื้อก็ต้องพิจารณาให้ดีเพราะสินค้าทั้งหลายทั้งปวงเค้าจำหน่ายให้กับคนท้องถิ่นเป็นหลัก หากแต่นักท่องเที่ยวอย่างเราอยากได้ ก็ต้องตรวจสอบให้เรียบร้อยเสียก่อนว่า ใช้กับไฟฟ้าบ้านเราได้มั้ย มีคู่มือภาษาอังกฤษให้หรือเปล่า และใช้นอกประเทศญี่ปุ่นได้จริง เพราะสินค้าบางอย่างพอนำออกจากญี่ปุ่นแล้วมันทำงานไม่ได้เช่นนาฬิกาบางรุ่นที่ทำงานโดยคลื่นวิทยุ ซึ่งเมืองไทยไม่สามารถใช้ได้ และสินค้าบางตัวที่ใช้ได้แต่ไม่คุ้มเช่นเครื่องรับวิทยุ เพราะในญี่ปุ่นนั้นช่วงคลื่นวิทยุเอฟเอ็มเค้าแตกต่างจากบ้านเรา
สำหรับคุณๆที่เป็นแฟนสินค้าแนวนี้และมีโอกาสไปญี่ปุ่นอยู่เสมอ ถ้ารักชอบแบรนด์ร้านไหน ก็ควรจะทำบัตรสะสมแต้ม(Point Card)เก็บเอาไว้ เวลาซื้อของๆเค้าทีก็จะมีคะแนนสะสมไปเรื่อยๆ ซึ่งคะแนนของเค้าสามารถเก็บไว้ได้หลายปีและนำมาแลกสินค้าในร้านแทนเงินสดได้ไม่มีอิดออดให้รำคาญใจไม่มีเงื่อนไขให้เสียอารมณ์ บางร้านถึงขนาดช่วยคิดแทนเราด้วยว่า ถ้าซื้อของชิ้นใหญ่แล้วจะได้คะแนนเท่าไหร่ แล้วเอาคะแนนที่ได้ไปแลกสินค้าชิ้นเล็กโดยไม่ต้องจ่ายเงินเลย ยิ่งถ้าไปเป็นกลุ่มใหญ่หรือครอบครัวก็ยิ่งคุ้ม คุณพ่อซื้อกล้องคุณแม่ซื้อนาฬิกา ได้คะแนนมาแลกเครื่องเล่นเกมส์ให้คุณลูก แฮบปี้กันถ้วนหน้า ไปญี่ปุ่นคราวหน้าอย่าลืมทำไว้ซักใบ ยิ่งถ้าไปกับบริษัททัวร์ยิ่งสะดวก ขอให้หัวหน้าทัวร์หรือไกด์ท้องถิ่นเค้าช่วยทำให้ รับรองว่าเป็นประโยชน์กับทุกท่านและใช้ประโยชน์ได้ทันที เวลาชำระค่าสินค้าก็แค่แสดงบัตรให้เจ้าหน้าที่เค้าดู จะชำระเงินแล้วเก็บคะแนนไว้ก่อนก็ได้ หรือถ้ามีคะแนนอยู่มากพอ จะให้ทางร้านเค้าตัดคะแนนออกจากบัตรเป็นค่าสินค้าเลยก็ได้ หรือถ้ามีคะแนนไม่พอ จะใช้คะแนนส่วนหนึ่งแล้วชำระเงินในส่วนที่ขาดก็ได้เช่นกัน เวลาใช้บัตรก็แสนจะสะดวก เพราะเค้ายึดถือบัตรเป็นหลักไม่ต้องเช็ดชื่อหรือตรวจสอบลายซ็น ใครถือบัตรใบนี้มาก็ใช้ได้ทั้งนั้น เหมาะจะทำติดตัวไว้ เผื่อคราวหน้าจะมาเองหรือคนสนิทในบ้านจะมาบ้าง จะได้ช่วยกันใช้ช่วยกันสะสมคะแนนให้ครบ อาจจะได้ลำโพงชั้นเยี่ยมมาประดับห้องรับแขกฟรีๆโดยไม่ต้องเสียเงิน
ร้านเครื่องไฟฟ้าดังๆไม่ว่าจะเป็น Bic Camera, Yodobashi, Sakuraya เค้ามีกันทั้งนั้น แถมในช่วงฤดูจับจ่ายอย่างเช่นช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ ยังมีโปรโมชั่นเพิ่มคะแนนจาก 5เปอร์เซนต์เป็น 10เหรือ15เปอร์เซนต์ในสินค้าบางรายการ อย่างนี้ยิ่งซื้อยิ่งคุ้ม คนญี่ปุ่นเค้านิยมทำPoint Cardกันแทบทั้งนั้น ไม่เฉพาะร้านเครื่องไฟฟ้านะครับ ร้านขายยา ร้านอาหาร และอีกสารพัดร้าน ก็มีระบบPoint Cardให้กับลูกค้า เพื่อสร้างความภักดีและสร้างความถี่ในการใช้บริการกันอย่างแพร่หลาย เพื่อนๆชาวญี่ปุ่นหลายรายมีกระเป๋าใส่Point Cardโดยเฉพาะ เวลาไปกินข้าวซื้อของกันทีไร เค้าสะสมคะแนนกันได้แทบทุกร้าน หลังๆผมเลยเอาบ้าง ปีที่แล้วทั้งปีได้คะแนนมาแลกเครื่องเล่นPSPให้ลูกสาวได้สบายเลย ร้านไหนห้างไหนในเมืองไทยจะเอาไปใช้บ้างก็น่าจะดี แต่ต้องใจถึงสักนิดอย่าคิดอะไรตื้นๆ ของญี่ปุ่นเค้าใช้คะแนนแทนเงินสดซื้อสินค้าในร้านได้ทุกรายการก็เลยเป็นที่นิยม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น