วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Tokyo Trendy 25


โตเกียว เทรนด์ดี 25
            อิ่มจาก Kyushu Jankara Ramen แล้วก็ไปต่อกันเลย ออกจากร้านเลี้ยวซ้ายไปตามถนนโอโมเทะซันโด MUJI รอคอยคุณอยู่ในซอยถัดไปเพียงแค่ไม่กี่ก้าว ใครเป็นแฟนตัวจริงของMUJI ต้องไม่พลาดการเป็นเจ้าของเครื่องเล่นซีดีแบบติดผนัง ที่ออกแบบโดยคุณนาโอโตะ ฟุคะซาวะ (Naoto Fukasawa) ดีไซน์เนอร์ระดับเทพของญี่ปุ่น ที่ดูเรียบง่ายแต่คูลมากเสียจนต้องเข้าไปอยู่ใน MoMA (Museum of Modern Art) ที่นิวยอร์คกันทีเดียว ด้วยรูปลักษณ์และฟังชั่นการใช้งานที่แสนจะธรรมดาเสียจนหาปุ่มต่างๆแทบจะไม่เจอ โดยเฉพาะปุ่มplayที่ไม่มีให้คุณกดแต่เปลี่ยนเป็นระบบดึงแทน และเมื่อมันมาอยู่บนผนังข้างโต๊ะทำงานของคุณแล้วดีไซน์ที่เรียบง่ายก็จะโดดเด่นขึ้นมาแต่ก็ไม่หวือหวาเกินงามจนทำให้ข้าวของชิ้นอื่นๆหมดราคาไปแต่อย่างใด นอกจากเครื่องเล่นซีดีแล้วสินค้าชิ้นอื่นๆก็น่าซื้อน่าใช้ไปเสียหมด
                พาดพิงถึงคุณ Naoto Fukasawa ไปหน่อยนึง เลยอดที่จะเล่าถึงไม่ได้ คุณฟุคะซาวะ ปัจจุบันเป็นDesign Director อยู่ที่ Plusminuszero  บริษัทผลิตสินค้าในครัวเรือนที่คูลที่สุดในญี่ปุ่น ที่ส่งสินค้าที่ดูดีมากมายหลายชิ้นออกสู่ตลาดตั้งแต่นาฬิกาแขวน เครื่องคิดเลข เครื่องปิ้งขนมปัง เครื่องชงกาแฟ พัดลม กาต้มน้ำ ที่เห็นแล้วกระตุ้นต่อมอยากแทบทุกชิ้น โดยเฉพาะHimidifier เครื่องทำความชื้นที่ดูยังไงก็ไม่เหมือน ดูกี่ทีมันก็งานศิลปะสวยเรียบเหมาะกับการตกแต่งมากกว่าจะเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า เลยทำให้เจ้าเครื่องHimidifier นี้ ได้รับการเชื้อเชิญให้เข้าไปอยู่ใน MoMA (Museum of Modern Art) กันอีกชิ้น
                คุณฟุคะซาวะ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปะ ทามะ (Tama Art University) ชานกรุงโตเกียว เมื่อปี1980 เริ่มงานแรกที่บริษัท Seiko Epson จากนั้นก็ย้ายไปทำงานที่สหรัฐอเมริกากับบริษัทที่ปรึกษาและออกแบบผลิตภัณฑ์ IDEO เป็นเวลา8ปี จึงได้กลับมาร่วมเปิดสำนักงานสาขาของ IDEO ในกรุงโตเกียว จนฝีมือแก่กล้าจึงได้ออกมาเปิดบริษัทของตัวเองชื่อ Naoto Fukasawa Design ขึ้นในปี2003 รับจ๊อบมากมาย หนึ่งในนั้นคือไปนั่งเป็นกรรมการใน MUJI ช่วยดูแลสารพัดสินค้าที่โดนใจเราๆเสียเหลือเกิน  หลายปีหลังนี่ยิ่งดังจนฉุดไม่อยู่เพราะงานที่คุณน้าฟุคะซาวะเค้าออกแบบ ไปชนะได้รางวัลระดับโลกมาหลายชิ้น สินค้าแต่ละชิ้นเห็นแล้วน้ำลายไหลชวนให้เป็นเจ้าของเป็นที่สุด ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือของ KDDI/au รุ่น info.bar และรุ่น INFOBAR 2 ที่ถูกใจคนใช้โทรศัพท์มือถือด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นและเป็นมิตรกับผู้ใช้ด้วยแป้นกดที่ใหญ่กว่าปกติ หรือรุ่น Ishicoro ที่ออกแบบมาให้ดูเหมือนก้อนหินที่เกลี้ยงเกลา และรุ่น neon ที่เรียบง่ายที่สุด เสียดายที่คนไทยเราไม่มีโอกาสได้ใช้โทรศัพท์มือถือที่เราอยากใช้ ก็ต้องยอมรับชะตากรรมใช้โทรศัพท์ที่เค้าอยากขายกันต่อไป
นอกจากงานออกแบบแล้ว คุณฟุคะซาวะยังเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยศิลปะ มุซาชิโนะ และเป็นอาจารย์พิเศษให้กับมหาวิทยาลัยศิลปะ ทามะที่ตัวเองเคยศึกษาอีกแห่งหนึ่งด้วย ใครที่อยู่เมืองไทยและอยากได้สินค้าจากการออกแบบของคุณฟุคะซาวะ ก็คงต้องไปหาซื้อเจ้าเครื่องเล่นซีดีแบบติดผนัง ที่MUJI ในห้างเซ็นทรัล มาใช้กันไปก่อน ไว้มีโอกาสมาญี่ปุ่นเมื่อไหร่ ค่อยมาไล่เก็บชิ้นที่ถูกใจแต่ไม่ถูกเงินก็แล้วกันครับ
                ผ่านMUJIไปไม่ไกลก็จะชนกับสี่แยกฮาราจูกุ และเมื่อคุณข้าถนนตรงขึ้นไป ร้านGAPสาขาฮาราจูกุ ที่มีดีกรีเป็นถึงFlagship Store รอคุณอยู่ตรงหน้า อันที่จริงสี่แยกนี้ดูเหมือนสถานที่ชุมนุมจอมยุทธ มีGAPอยู่มุมหนึ่ง มีH&Mอยู่เยื้องๆ UTอยู่อีกด้านของถนน และZARAอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ใครชอบแบรนด์ไหนเลือกเข้าได้ตามใจ หรือจะเช็คเทรนด์กันก่อนตัดสินใจก็ไม่ต้องเดินกันไกลเข้าร้านโน้นออกร้านนี้มีเวลาไม่มากแต่เดินได้ครบ สมกับเป็นสี่แยกแห่งแฟชั่นจริงๆ
                ตรงมุมสี่แยกฝั่งร้านGAP ตรงนี้ออกไปทั้งทางซ้ายจนชนกับสี่แยกใหญ่และตรงไปตามถนนโอโมเทะซันโดจนเลยตึกโอโมเทะซันโดฮิลล์ไปหน่อยนึง จะครอบคลุม Jingu-Mae บล็อก 2-3-4ทั้งหมด
โดยที่บล็อก2 จะค่อนข้างจะเงียบกว่าเพราะเป็นย่านที่พักอาศัยและเป็นที่ตั้งของสถานฑูตหลายแห่ง แต่บล็อก3และ4นี่สิครับ ทั้งที่อยู่ริมถนนใหญ่และในซอย ซื้อสนุกได้ไม่แพ้กัน ใครนิยมแบรนด์ที่คุ้นชื่อก็เดินรอบนอก แต่ถ้าชอบแบรนด์ท้องถิ่นต้องซอกแซกด้านในครับ จะมีอะไรน่าสนใจรอไว้อาทิตย์หน้าจะพาเที่ยวกันต่อครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น