โตเกียว
เทรนด์ดี 25
อิ่มจาก Kyushu Jankara Ramen แล้วก็ไปต่อกันเลย
ออกจากร้านเลี้ยวซ้ายไปตามถนนโอโมเทะซันโด MUJI รอคอยคุณอยู่ในซอยถัดไปเพียงแค่ไม่กี่ก้าว
ใครเป็นแฟนตัวจริงของMUJI ต้องไม่พลาดการเป็นเจ้าของเครื่องเล่นซีดีแบบติดผนัง ที่ออกแบบโดยคุณนาโอโตะ
ฟุคะซาวะ (Naoto Fukasawa)
ดีไซน์เนอร์ระดับเทพของญี่ปุ่น
ที่ดูเรียบง่ายแต่คูลมากเสียจนต้องเข้าไปอยู่ใน MoMA (Museum of Modern Art) ที่นิวยอร์คกันทีเดียว
ด้วยรูปลักษณ์และฟังชั่นการใช้งานที่แสนจะธรรมดาเสียจนหาปุ่มต่างๆแทบจะไม่เจอ
โดยเฉพาะปุ่มplayที่ไม่มีให้คุณกดแต่เปลี่ยนเป็นระบบดึงแทน
และเมื่อมันมาอยู่บนผนังข้างโต๊ะทำงานของคุณแล้วดีไซน์ที่เรียบง่ายก็จะโดดเด่นขึ้นมาแต่ก็ไม่หวือหวาเกินงามจนทำให้ข้าวของชิ้นอื่นๆหมดราคาไปแต่อย่างใด
นอกจากเครื่องเล่นซีดีแล้วสินค้าชิ้นอื่นๆก็น่าซื้อน่าใช้ไปเสียหมด
พาดพิงถึงคุณ Naoto Fukasawa ไปหน่อยนึง
เลยอดที่จะเล่าถึงไม่ได้ คุณฟุคะซาวะ ปัจจุบันเป็นDesign Director อยู่ที่
Plusminuszero บริษัทผลิตสินค้าในครัวเรือนที่คูลที่สุดในญี่ปุ่น
ที่ส่งสินค้าที่ดูดีมากมายหลายชิ้นออกสู่ตลาดตั้งแต่นาฬิกาแขวน เครื่องคิดเลข
เครื่องปิ้งขนมปัง เครื่องชงกาแฟ พัดลม กาต้มน้ำ
ที่เห็นแล้วกระตุ้นต่อมอยากแทบทุกชิ้น โดยเฉพาะHimidifier เครื่องทำความชื้นที่ดูยังไงก็ไม่เหมือน
ดูกี่ทีมันก็งานศิลปะสวยเรียบเหมาะกับการตกแต่งมากกว่าจะเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า
เลยทำให้เจ้าเครื่องHimidifier นี้ ได้รับการเชื้อเชิญให้เข้าไปอยู่ใน MoMA (Museum of Modern Art) กันอีกชิ้น
คุณฟุคะซาวะ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปะ ทามะ (Tama Art University) ชานกรุงโตเกียว เมื่อปี1980 เริ่มงานแรกที่บริษัท Seiko Epson จากนั้นก็ย้ายไปทำงานที่สหรัฐอเมริกากับบริษัทที่ปรึกษาและออกแบบผลิตภัณฑ์
IDEO
เป็นเวลา8ปี จึงได้กลับมาร่วมเปิดสำนักงานสาขาของ IDEO ในกรุงโตเกียว
จนฝีมือแก่กล้าจึงได้ออกมาเปิดบริษัทของตัวเองชื่อ Naoto Fukasawa Design ขึ้นในปี2003 รับจ๊อบมากมาย
หนึ่งในนั้นคือไปนั่งเป็นกรรมการใน MUJI ช่วยดูแลสารพัดสินค้าที่โดนใจเราๆเสียเหลือเกิน หลายปีหลังนี่ยิ่งดังจนฉุดไม่อยู่เพราะงานที่คุณน้าฟุคะซาวะเค้าออกแบบ
ไปชนะได้รางวัลระดับโลกมาหลายชิ้น สินค้าแต่ละชิ้นเห็นแล้วน้ำลายไหลชวนให้เป็นเจ้าของเป็นที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือของ KDDI/au รุ่น info.bar และรุ่น INFOBAR 2 ที่ถูกใจคนใช้โทรศัพท์มือถือด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นและเป็นมิตรกับผู้ใช้ด้วยแป้นกดที่ใหญ่กว่าปกติ
หรือรุ่น Ishicoro ที่ออกแบบมาให้ดูเหมือนก้อนหินที่เกลี้ยงเกลา
และรุ่น neon ที่เรียบง่ายที่สุด
เสียดายที่คนไทยเราไม่มีโอกาสได้ใช้โทรศัพท์มือถือที่เราอยากใช้
ก็ต้องยอมรับชะตากรรมใช้โทรศัพท์ที่เค้าอยากขายกันต่อไป
นอกจากงานออกแบบแล้ว
คุณฟุคะซาวะยังเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยศิลปะ มุซาชิโนะ
และเป็นอาจารย์พิเศษให้กับมหาวิทยาลัยศิลปะ ทามะที่ตัวเองเคยศึกษาอีกแห่งหนึ่งด้วย
ใครที่อยู่เมืองไทยและอยากได้สินค้าจากการออกแบบของคุณฟุคะซาวะ ก็คงต้องไปหาซื้อเจ้าเครื่องเล่นซีดีแบบติดผนัง
ที่MUJI ในห้างเซ็นทรัล มาใช้กันไปก่อน
ไว้มีโอกาสมาญี่ปุ่นเมื่อไหร่ ค่อยมาไล่เก็บชิ้นที่ถูกใจแต่ไม่ถูกเงินก็แล้วกันครับ
ผ่านMUJIไปไม่ไกลก็จะชนกับสี่แยกฮาราจูกุ และเมื่อคุณข้าถนนตรงขึ้นไป
ร้านGAPสาขาฮาราจูกุ ที่มีดีกรีเป็นถึงFlagship Store รอคุณอยู่ตรงหน้า
อันที่จริงสี่แยกนี้ดูเหมือนสถานที่ชุมนุมจอมยุทธ มีGAPอยู่มุมหนึ่ง มีH&Mอยู่เยื้องๆ UTอยู่อีกด้านของถนน และZARAอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล
ใครชอบแบรนด์ไหนเลือกเข้าได้ตามใจ
หรือจะเช็คเทรนด์กันก่อนตัดสินใจก็ไม่ต้องเดินกันไกลเข้าร้านโน้นออกร้านนี้มีเวลาไม่มากแต่เดินได้ครบ
สมกับเป็นสี่แยกแห่งแฟชั่นจริงๆ
ตรงมุมสี่แยกฝั่งร้านGAP ตรงนี้ออกไปทั้งทางซ้ายจนชนกับสี่แยกใหญ่และตรงไปตามถนนโอโมเทะซันโดจนเลยตึกโอโมเทะซันโดฮิลล์ไปหน่อยนึง
จะครอบคลุม Jingu-Mae บล็อก 2-3-4ทั้งหมด
โดยที่บล็อก2 จะค่อนข้างจะเงียบกว่าเพราะเป็นย่านที่พักอาศัยและเป็นที่ตั้งของสถานฑูตหลายแห่ง
แต่บล็อก3และ4นี่สิครับ
ทั้งที่อยู่ริมถนนใหญ่และในซอย ซื้อสนุกได้ไม่แพ้กัน
ใครนิยมแบรนด์ที่คุ้นชื่อก็เดินรอบนอก แต่ถ้าชอบแบรนด์ท้องถิ่นต้องซอกแซกด้านในครับ
จะมีอะไรน่าสนใจรอไว้อาทิตย์หน้าจะพาเที่ยวกันต่อครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น