วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Tokyo Trendy 26


โตเกียว เทรนด์ดี 26
          พื้นที่ด้านในของ Jingu-mae บล็อก 3-4 นี้เรียกว่า Ura-Harajuku แปลว่า ด้านหลังของฮาราจูกุ ซึ่งโดยปกติด้านหลังของที่ไหนๆก็มักจะดูเงียบๆไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ แต่ไม่ใช่ที่ฮาราจูกุครับ เพราะด้านหลังของฮาราจูกุนี้อุดมไปด้วยร้านเล็กร้านน้อย ที่เน้นหนักไปทางแฟชั่นบนกระแสแต่จะเป็นแบรนด์ท้องถิ่นเสียเป็นส่วนใหญ่ หรือไม่ถ้าเป็นแบรนด์ที่คุ้นชื่อ ร้านเค้าก็จะเลือกแบบเลือกสีที่ดูดีมาให้แล้ว เหมาะกับวัยรุ่นตอนปลายประมาณเด็กมหาวิทยาลัยขึ้นไป เดินเล่นแถวนี้ไป ก็ดูคล้ายกับเดินเล่นแถวๆสยามอยู่เหมือนกัน เพียงแต่ไม่มีรถราหนาแน่น ไม่มีโรงเรียนกวดวิชา ไม่มีธนาคารกับร้านกาแฟ ไม่มีโรงภาพยนต์ และไม่มีรถเข็นขายลูกชิ้นปิ้งหมูทอด เท่านั้นเอง
                จะเข้าไปใน Ura-Harajuku ก็ควรเริ่มต้นจากร้านGap ตรงสี่แยกฮาราจูกุนั่นแหละครับ ถ้าหันหน้าเข้าหาร้านGap และหันหลังให้ตึก Laforet จะเลือกเดินไปทางซ้ายหรือทางขวาก็ได้ทั้งนั้น แต่ถ้าเลือกเดินไปทางซ้ายตามถนนเมจิ (Meiji Dori)ขึ้นไปก็จะง่ายหน่อย เพราะคุณทำความคุ้นเคยกับร้านฝั่งตรงข้ามอย่าง H&M และ Forever 21ไปหมาดๆ คงไม่วอกแวกให้เสียความตั้งใจไปได้ง่ายกว่าที่จะเดินไปทางขวา เมื่อเดินจากร้านGap ไปทางซ้ายหน่อยเดียวคงต้องแวะเสียเวลาสักนิดกับร้าน Hanjiro บนตึกYM Square Harajuku เอาใจคนชอบแฟชั่นแนววินเทจบ้าง นอกจากเสื้อผ้าแนววินเทจในราคาที่เป็นมิตรกับผู้ซื้อและเสื้อผ้ามือสองราคาถูกใจวัยรุ่นแล้ว การจัดร้านของที่นี่ก็เก๋ไก๋ถูกใจไปด้วยโดยเฉพาะเพดานเปลือยให้เห็นโครงสร้างและแนวท่อทาสีขาวห้อยโคมระย้าอยู่ทั่วไป ราวแขวนเสื้อทำจากไม้อัดแน่นเรียงรายไปด้วยเสื้อผ้าอินเทรนด์ ผนังสีอ่อนแขวนกรอบรูปและกระจกเงาที่เข้ากันดีกับบรรยากาศของร้าน ทำให้Hanjiroกลายเป็นขวัญใจของวัยรุ่นแนววินเทจไปในระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่ปี และขยายสาขาออกไปทั่วญี่ปุ่นถึง19แห่ง
                พูดถึงตึก YM Square Harajuku แล้วก็ต้องบอกให้ทราบกันไว้ว่าตึกนี้เป็นของบริษัท Yoku Mokuครับ ชื่อคุ้นๆแบบนี้ใช่แล้วครับ ก็ขนมอบม้วนเป็นแท่งรูปทรงเหมือนซิการ์ที่หลายท่านรู้จักกันดีในยี่ห้อYoku Mokuนั่นแหละครับ ขนมซิการ์นี้เป็นหนึ่งในขนมอร่อยมากของญี่ปุ่นที่ขึ้นชั้นติดอันดับและมีวางจำหน่ายอยู่ตามชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้าดังๆแทบทุกห้าง รวมถึงที่ร้านขายของฝากตามสนามบินแทบทุกแห่งของญี่ปุ่นด้วย ระยะหลังเริ่มหันมาเอาดีด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ดูบ้างโดยจับมือกับบริษัทTakenakaหนึ่งในเจ้าพ่อวงการก่อสร้างของญี่ปุ่น  และก็ไปได้สวย เพราะได้พื้นที่ทำเลทองซึ่งหาได้ยากมากในปัจจุบันแบบนี้ไป ทำให้ตึก YM Square Harajuku เป็นอีกหนึ่งตึกสวยของย่านนี้
 นอกจากHanjiro บนชั้น3และ4แล้ว บนชั้น2ของตึก ยังเป็นที่ตั้งของร้าน Adidas Concept Shop ด้วย ร้านนี้ไม่ใช่ร้านรองเท้าแนวสตรีทแฟชั่น แต่เป็นร้านรองเท้าวิ่งที่มีดีกรีเป็นถึง Running Flagship Store ของ Adidas ทีเดียวเชียว ก็เลยมีดีกว่าที่อื่นๆตรงที่ ที่นี่เค้าใช้ระบบ Footscan มาวิเคราะห์ลักษณะเท้าของลูกค้าเป็นแห่งแรกของญี่ปุ่น ทำให้คุณได้รองเท้าที่เหมาะสมกับลักษณะเท้าและน้ำหนักตัวของคุณมากกว่าที่จะไปซื้อหาตามร้านทั่วไป ยังเหลืออีกร้านที่ชั้นใต้ดิน B1F ร้าน KINJI แนวเดียวกันกับ Hanjiro ถึงการแต่งร้านดูจะด้อยกว่า สินค้าเสื้อผ้ากลับไม่หนีกันเท่าไหร่ แต่ของKINJIเค้าจะเน้นหนักไปทางเสื้อผ้ามือสอง ไหนๆก็มาตึกนี้กันแล้วแวะดูทั้ง2ร้านจะเป็นไรไป ใครชอบเสื้อผ้ามือสองลองไปดูกันครับ
                จากตึกYM Square Harajukuขึ้นไปไม่ไกลจะเจอกับทางเข้าUra-Harajuku ฝั่งถนนเมจิ  สังเกตุดูได้ง่ายมากเพราะตรงหน้าปากซอยจะมีป้ายโลหะรูปโค้งเขียนไว้ว่า Harajuku Street ตรงนี้แหละครับที่ผมรู้สึกเป็นการส่วนตัวว่าคือฮาราจูกุที่แท้จริง ไม่ใช่ถนนทาเคะชิตะ (Takeshita Dori)ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เพราะตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าไปในHarajuku Streetนี้ ก็เหมือนหลุดเข้าไปในอีกโลกครับ เป็นโลกของวัยรุ่นคนละพวกคนละวัยกับในถนนทาเคะชิตะ เดินเข้าไปก็จะเจอซอยเล็กซอยน้อยแยกซ้ายแยกขวาตลอดทาง จำหลักไว้นิดนึงครับ ถ้าเดินแยกขวาเข้าไป ทุกซอยจะออกต้องมาโผล่ที่ถนนโอโมเทะซันโดครับ แต่ถ้าเดินตรงขึ้นไปเรื่อยๆก็จะไปชนกับ Cat Street ส่วนที่2 ที่ข้ามยาวมาจากชิบุยะโน่น และ Cat Street ส่วนนี้ก็มีอารมณ์คล้อยตามฝั่งฮาราจูกุ ที่แตกต่างจากฝั่งชิบุยะไปอยู่บ้าง เหมือนพี่กับน้องที่ชอบของคนละวัยยังไงยังงั้นแหละครับ
               

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น