โตเกียว
เทรนด์ดี 30
และฝั่งตรงข้ามกับOmotesando Hills ตึกGYRE ได้เปิดให้บริการพร้อมกับแบรนด์ระดับหรูอย่าง
CHANEL, BVLGARI, PLAY COMME de GARCONS, Maison Martin
Margiela ร้านสุดเท่อย่างMoMA design store ก็มา และร้านอาหารระดับMichelin Star ร้านUkai-Tei ก็มาด้วย ถึงจะเล็กกว่าOmotesando Hills
อยู่หลายขุม
แต่ก็เล็กพริกขี้หนูที่จัดจ้านไม่แพ้ใครในย่านนี้ทั้งสิ้น
ตึกGYRE เป็นตึกที่ออกแบบโดยบริษัทสถาปนิกจากประเทศเนเธอร์แลนด์
โดยได้นำแนวคิดของการหมุนวนมาออกแบบตึกห้าชั้น โดยแต่ละชั้นบิดออกจากแนวเหมือนเวลาคุณเล่นรูบิคแล้วบิดแต่ละชั้นให้มันไม่อยู่ตรงร่องตรงรอยนั่นแหละครับ
พอบิดแต่ละชั้นแล้วก็ปรับลดส่วนเกินส่วนล้ำออกไปบ้างให้มันดูลงตัวไม่เกกมะเหรกเกเรไประรานทำร้ายทัศนียภาพโดยรวมของถนนและให้เกียรติตึกข้างเคียง
ประมาณถึงจะมาใหม่เก๋ไก๋กว่าแต่ก็ไม่แสดงออกเกินหน้าเกินตาจนน่าหมั่นไส้ ใครอยากรู้จักต้องรู้ลึกเข้าไปภายในถึงจะเห็นคุณงามความดี
สำหรับท่านที่ชื่นชอบสินค้าแบรนด์เนมคงไม่ต้องพูดกันยาว
แค่ชื่อชั้นของ CHANELและBVLGARIก็เป็นที่การันตีความหรูหราได้ อีกทั้งยังได้ Maison Martin Margiela มาเสริมทัพ ยิ่งทำให้ตึกGYRE มีแฟนๆและขาประจำมาเยี่ยมไม่ขาดสาย แต่สำหรับผม
มักจะหมดเวลาไปกับ MoMa design store ร้านค้าที่รวบรวมผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการคัดสรรแล้วว่าสวยด้วยดีไซน์และพร้อมด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานไม่ขาดอย่างหนึ่งอย่างใดจาก The
Museum of Modern Arts แห่งนิวยอร์ค ที่ครอบคลุมสินค้าสารพัด ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์
เครื่องครัว เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องเขียน เตรื่องประดับ ไปจนถึงหนังสือและของเด็กเล่น
มาจำหน่ายให้กับผู้มีรสนิยมในสินค้ามีดีไซน์
แต่MoMaที่ตึกGYRE โอโมเทะซันโดนี้ อาจจะมีสินค้าไม่ครบไลน์หลากหลายเท่ากับที่นิวยอร์ค
แต่ก็เพียงพอให้คนที่ไม่รู้จักพอเพียงอย่างผม เพลิดเพลินไปกับสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น
โดยเฉพาะของใช้ในบ้านและที่ทำงาน ที่ยั่วน้ำลายไปซะแทบทุกชิ้น จารนัยกันไม่หวาดไม่ไหวว่ามีอะไรบ้าง
ใครสนใจลองแวะเข้าไปชมในเวปไซต์ของเค้าได้ที่ www.momastore.jp รับรองว่าคุณจะเกิดอาการตาร้อนจนแทบจะต้องซื้อตั๋วเครื่องบินไปให้ได้เลยทีเดียวเชียว
หมวดที่โดนใจผมมากๆก็คือเครื่องใช้ในบ้านครับ
มีข้าวของที่เห็นแล้วอยากได้แทบทั้งนั้น
ทั้งๆที่บางชิ้นยังไม่รู้เลยว่าจะเอาไปวางตรงไหน แต่ก็อยากจะมีไว้ซะอย่างงั้น
นี่แหละครับ อิทธิพลของการออกแบบ ถ้าออกแบบได้โดนใจจริงๆไม่ต้องกลัวว่าจะขายของไม่ได้
ขอเพียงอย่าไปเลียนแบบใครเค้าเป็นใช้ได้
อย่างที่ญี่ปุ่นนี่เค้าเน้นมากเรื่องการออกแบบครับ ใครที่ประกอบอาชีพด้านนี้
ถ้าพอมีเวลาและกำลังทรัพย์ ลองหาโอกาสมาเดินหาแรงบันดาลใจที่ญี่ปุ่นดูสิครับ
รับรองว่าคุณจะได้อะไรกลับไปเยอะเลยทีเดียว
เหมือนกับผมในเดือนที่แล้ว ที่ได้รับผลจากแรงบันดาลใจจนเสร็จกระเป๋าสะพายสุดฮิต
PLEATS PLEASE สีดำไปเรียบร้อบโรงเรียน Issey Miyake จนได้ แต่เป็นรุ่นของสุภาพบุรุษนะครับ
เดี๋ยวจะเข้าใจผมผิดเพราะคิดไปต่างๆนานา ด้วยความที่มันCool มากๆและกำลังอยู่บนกระแส โดยเฉพาะแฟนๆชาวไทยที่ตอนนี้ตามหากันแทบจะพลิกแผ่นดินกันเลย
แต่หลายท่านอาจจะสงสัยว่า เอ...แล้วไอ้กระเป๋าแฟชั่นนี่มันทำไมถึงไปอยู่ใน MoMa design store ได้เล่า ก็อย่างที่เล่าให้ฟังนั่นแหละครับ
ผลิตภัณฑ์ที่มีดีไซน์โดนๆและโดดเด่นเท่านั้นถึงจะมีสิทธิได้รับการคัดเลือกจากMoMaให้เข้าไปจำหน่าย และกระเป๋า PLEATS PLEASE นี้ก็ดีไซน์ได้เหลือกินครับ ที่ผมซื้อนี่ก็เพราะดีไซน์จริงๆ
แต่บังเอิญว่าเป็นแบรนด์ดังของญี่ปุ่นพอดีและเป็นรุ่นหายากอีกด้วย ถ้าไม่ลองมีไว้ใช้เอง
คงไม่สามารถนำมาเล่าให้คุณผู้อ่านฟังได้เป็นแน่ ยิ่งมาระยะหลังนี้ หลายทริปที่ผมมีโอกาสได้พาทัวร์
ต้องมีลูกค้าให้พาไปที่ร้าน PLEATS PLEASE แทบทุกครั้ง
แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกครั้งจะได้ของครบหรือได้สีที่ชอบนะครับ
เพราะคนญี่ปุ่นเองก็ฮิตกันเหลือเกิน ด้วยราคาที่ไม่สูงเกินไปประมาณใบละ20.000เยน
ทำให้กระเป๋ารุ่นนี้ขายดีเป็นอย่างยิ่ง นี่เห็นว่าจะออกรุ่นใหม่มาอีก6สี ตอนต้นปีหน้า
ใครตามๆกันอยู่ก็จับจองกันให้เป็นที่เรียบร้อยนะครับ จะได้ไม่ผิดหวังเหมือนรอบนี้
มีท่านผู้อ่านเมล์มาถามว่า
อยากอ่านคอลัมน์ย้อนหลังจะทำอย่างไร ตอนนี้ผมได้ขออนุญาติทางหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
นำคอลัมน์”มองญี่ปุ่น”ไปทยอยลงในเวปไซต์ของบริษัทฯ สามารถติดตามได้แล้วที่ http://www.j-plan.co.th/webboard/
ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น