วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Tokyo Trendy 30


โตเกียว เทรนด์ดี 30
                และฝั่งตรงข้ามกับOmotesando Hills ตึกGYRE ได้เปิดให้บริการพร้อมกับแบรนด์ระดับหรูอย่าง CHANEL, BVLGARI, PLAY COMME de GARCONS, Maison Martin Margiela ร้านสุดเท่อย่างMoMA design store ก็มา และร้านอาหารระดับMichelin Star ร้านUkai-Tei ก็มาด้วย ถึงจะเล็กกว่าOmotesando Hills อยู่หลายขุม แต่ก็เล็กพริกขี้หนูที่จัดจ้านไม่แพ้ใครในย่านนี้ทั้งสิ้น
                ตึกGYRE เป็นตึกที่ออกแบบโดยบริษัทสถาปนิกจากประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยได้นำแนวคิดของการหมุนวนมาออกแบบตึกห้าชั้น โดยแต่ละชั้นบิดออกจากแนวเหมือนเวลาคุณเล่นรูบิคแล้วบิดแต่ละชั้นให้มันไม่อยู่ตรงร่องตรงรอยนั่นแหละครับ พอบิดแต่ละชั้นแล้วก็ปรับลดส่วนเกินส่วนล้ำออกไปบ้างให้มันดูลงตัวไม่เกกมะเหรกเกเรไประรานทำร้ายทัศนียภาพโดยรวมของถนนและให้เกียรติตึกข้างเคียง ประมาณถึงจะมาใหม่เก๋ไก๋กว่าแต่ก็ไม่แสดงออกเกินหน้าเกินตาจนน่าหมั่นไส้ ใครอยากรู้จักต้องรู้ลึกเข้าไปภายในถึงจะเห็นคุณงามความดี
                สำหรับท่านที่ชื่นชอบสินค้าแบรนด์เนมคงไม่ต้องพูดกันยาว แค่ชื่อชั้นของ CHANELละBVLGARIก็เป็นที่การันตีความหรูหราได้ อีกทั้งยังได้ Maison Martin Margiela มาเสริมทัพ ยิ่งทำให้ตึกGYRE มีแฟนๆและขาประจำมาเยี่ยมไม่ขาดสาย แต่สำหรับผม มักจะหมดเวลาไปกับ MoMa design store ร้านค้าที่รวบรวมผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการคัดสรรแล้วว่าสวยด้วยดีไซน์และพร้อมด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานไม่ขาดอย่างหนึ่งอย่างใดจาก The Museum of Modern Arts แห่งนิวยอร์ค ที่ครอบคลุมสินค้าสารพัด ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ เครื่องครัว เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องเขียน เตรื่องประดับ ไปจนถึงหนังสือและของเด็กเล่น มาจำหน่ายให้กับผู้มีรสนิยมในสินค้ามีดีไซน์
แต่MoMaที่ตึกGYRE โอโมเทะซันโดนี้ อาจจะมีสินค้าไม่ครบไลน์หลากหลายเท่ากับที่นิวยอร์ค แต่ก็เพียงพอให้คนที่ไม่รู้จักพอเพียงอย่างผม  เพลิดเพลินไปกับสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น โดยเฉพาะของใช้ในบ้านและที่ทำงาน ที่ยั่วน้ำลายไปซะแทบทุกชิ้น จารนัยกันไม่หวาดไม่ไหวว่ามีอะไรบ้าง ใครสนใจลองแวะเข้าไปชมในเวปไซต์ของเค้าได้ที่ www.momastore.jp รับรองว่าคุณจะเกิดอาการตาร้อนจนแทบจะต้องซื้อตั๋วเครื่องบินไปให้ได้เลยทีเดียวเชียว หมวดที่โดนใจผมมากๆก็คือเครื่องใช้ในบ้านครับ มีข้าวของที่เห็นแล้วอยากได้แทบทั้งนั้น ทั้งๆที่บางชิ้นยังไม่รู้เลยว่าจะเอาไปวางตรงไหน แต่ก็อยากจะมีไว้ซะอย่างงั้น นี่แหละครับ อิทธิพลของการออกแบบ ถ้าออกแบบได้โดนใจจริงๆไม่ต้องกลัวว่าจะขายของไม่ได้ ขอเพียงอย่าไปเลียนแบบใครเค้าเป็นใช้ได้ อย่างที่ญี่ปุ่นนี่เค้าเน้นมากเรื่องการออกแบบครับ ใครที่ประกอบอาชีพด้านนี้ ถ้าพอมีเวลาและกำลังทรัพย์ ลองหาโอกาสมาเดินหาแรงบันดาลใจที่ญี่ปุ่นดูสิครับ รับรองว่าคุณจะได้อะไรกลับไปเยอะเลยทีเดียว
เหมือนกับผมในเดือนที่แล้ว ที่ได้รับผลจากแรงบันดาลใจจนเสร็จกระเป๋าสะพายสุดฮิต PLEATS PLEASE สีดำไปเรียบร้อบโรงเรียน Issey Miyake จนได้ แต่เป็นรุ่นของสุภาพบุรุษนะครับ เดี๋ยวจะเข้าใจผมผิดเพราะคิดไปต่างๆนานา ด้วยความที่มันCool มากๆและกำลังอยู่บนกระแส โดยเฉพาะแฟนๆชาวไทยที่ตอนนี้ตามหากันแทบจะพลิกแผ่นดินกันเลย แต่หลายท่านอาจจะสงสัยว่า เอ...แล้วไอ้กระเป๋าแฟชั่นนี่มันทำไมถึงไปอยู่ใน MoMa design store ได้เล่า ก็อย่างที่เล่าให้ฟังนั่นแหละครับ ผลิตภัณฑ์ที่มีดีไซน์โดนๆและโดดเด่นเท่านั้นถึงจะมีสิทธิได้รับการคัดเลือกจากMoMaห้เข้าไปจำหน่าย และกระเป๋า PLEATS PLEASE นี้ก็ดีไซน์ได้เหลือกินครับ ที่ผมซื้อนี่ก็เพราะดีไซน์จริงๆ แต่บังเอิญว่าเป็นแบรนด์ดังของญี่ปุ่นพอดีและเป็นรุ่นหายากอีกด้วย ถ้าไม่ลองมีไว้ใช้เอง คงไม่สามารถนำมาเล่าให้คุณผู้อ่านฟังได้เป็นแน่ ยิ่งมาระยะหลังนี้ หลายทริปที่ผมมีโอกาสได้พาทัวร์ ต้องมีลูกค้าให้พาไปที่ร้าน PLEATS PLEASE แทบทุกครั้ง แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกครั้งจะได้ของครบหรือได้สีที่ชอบนะครับ เพราะคนญี่ปุ่นเองก็ฮิตกันเหลือเกิน ด้วยราคาที่ไม่สูงเกินไปประมาณใบละ20.000เยน ทำให้กระเป๋ารุ่นนี้ขายดีเป็นอย่างยิ่ง นี่เห็นว่าจะออกรุ่นใหม่มาอีก6สี ตอนต้นปีหน้า ใครตามๆกันอยู่ก็จับจองกันให้เป็นที่เรียบร้อยนะครับ จะได้ไม่ผิดหวังเหมือนรอบนี้
มีท่านผู้อ่านเมล์มาถามว่า อยากอ่านคอลัมน์ย้อนหลังจะทำอย่างไร ตอนนี้ผมได้ขออนุญาติทางหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ นำคอลัมน์มองญี่ปุ่นไปทยอยลงในเวปไซต์ของบริษัทฯ สามารถติดตามได้แล้วที่ http://www.j-plan.co.th/webboard/ ครับ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น